หลวงปู่สี อนุตฺตโร วัดบ้านคำข่าสามัญเทพวนาราม
ท่านพระครูมงคลสุวรรณกิจ (หลวงปู่สี อนุตฺตโร) วัดบ้านคำข่าสามัญเทพวนาราม
ท่านพระครูมงคลสุวรรณกิจ (หลวงปู่สี อนุตฺตโร) วัดบ้านคำข่าสามัญเทพวนาราม บ้านคำข่า ต.สว่าง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี |
หลวงปู่เกิดเมื่อวันที่9มกราคม2469 ที่บ้านคำข่า ต.สว่าง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ในสมัยนั้น(ตามใบสุทธิ ซึ่งโยมพ่อหลวงปู่ใด้ไปแจ้งเกิดช้าอยู่4ปี)ปัจจุบันหลวงปู่อายยุ97ปี33พรรษา เป็นบุตรของพ่อที จันทะเลิศ และแม่ทอง จันทะเลิศ
เมื่อครั้งยังเยาว์วัยหลวงปู่ท่านจะชอบเข้าวัดเป็นประจำ และสนใจเรื่องวิชาอาคมเป็นอย่างมาก เมื่อท่านเรียนจบชั้นป.4 โยมพ่อและโยมแม่เห็นท่านชอบเข้ามาเล่นที่วัดฟังธรรมเลยใด้พามาบวชเป็นสามเณรกับญาท่านสิงห์ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลวงลุงแท้ๆที่บ้านคำข่าเพื่อศึกษาเล่าเรียนธรรมะและอักขระธรรมโบราณและวิชาอาคมต่างๆให้กับสามเณรสีอยู่หลายปี จนสามเณรสีชำนาญหมดวิชาที่จะสอนให้แล้ว ญาท่านสิงห์จึงพาสามเณรสีไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์กับพระครูวิโรจน์ รัตนโนบล(หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง ผู้ที่บูรณะพระธาตุพนมจนแล้วเสร็จ) หลวงปู่เล่าว่าขณะที่ท่านใด้ศึกษาวิชาอยู่กับหลวงปู่รอดนั้นท่านต้องนั่งเรือไฟจากลำน้ำมูลเทียวไปเทียวมาระหว่างวัดบ้านคำข่าและวัดทุ่งศรีเมืองอยู่ถึง3ปี พอท่านอายุครบที่จะอุปสมบทเป็นพระท่านใด้บวชพระอยู่ที่วัดสว่างและระหว่างที่บวชเป็นพระท่านใด้ไปเกณฑ์ทหาร แต่ท่านจับใด้ใบดำเลยไม่ใด้ติดทหาร หลังจากนั้นพระสี ก็ใด้ไปร่ำเรียนวิชาบาลีกับพระครูสาธุ ธรรมจารี(เสา)วัดมุจรินทาราม(บ้านจิดใหญ่)อ.พิบูลมังสาหารในสมัยนั้นเป็นสำนักเรียนบาลีและมูลกัจจายที่โด่งดังมากก็ว่าใด้ ซึ่งหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล ก็เคยมาเรียนวิชาที่วัดแห่งนี้ด้วย(อ้างอิงตามคลิปวีดีโอ เวลาที่3.58นาที เปิดบันทึกตำนานหลวงปู่หมุน ที่ให้สัมภาษณ์) และท่านพระครูสาธุธรรมจารี(เสา)ยังเป็นพระอุปัชฌาย์ของหลวงปู่คำบุ คุตฺตจิตฺโต วัดกุดชมภู อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี หลังจากใด้ศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมจากพระครูสาธุธรรมจารี(เสา)แล้ว หลวงปู่ก็ยังไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์กับหลวงปู่บุญ ธฺมมธีโป วัดบ้านคำหว้า อ.พิบูลมังสาหาร(ในขณะนั้น ตอนนี้เป็นอ.ตาลสุมจ.อุบลราชธานี)ซึ่งหลวงปู่เล่าว่ามีอยู่วิชาหนึ่งที่ท่านใด้เรียนกับหลวงปู่บุญเป็นวิชาคลอดลูกง่าย หลวงปู่ยังเล่าต่อไปว่ามีอยู่วันหนึ่งมีวัวชาวบ้านใด้ไปกินลูกกระบกลูกนั้นใหญ่มากแล้วเกิดติดคอ ชาวบ้านทำยังไงก็ไม่ออกจนปัญญา จึงนึกใด้ว่าหลวงปู่สีคงช่วยใด้ จึงไปนิมนต์ให้หลวงปู่มาช่วย พอหลวงปู่มาถึงเห็นวัวชาวบ้านท้ออืดท้องโตมาก ท่านก็ใด้ใชัวิชาที่เรียนมากับหลวงปู่บุญช่วยเหลือวัวตัวนั้นรอดชีวิตมาใด้ จากนั้นท่านยังใด้ไปเรียนวิชากับญาท่านดี วัดสว่างและหมอธรรมฆราวาสพื้นบ้าน หลวงปู่เล่าว่าบางวิชาก็ซืำกันกับที่ใด้เรียนมาก่อนหน้านี้ก็มี หลวงปู่เลยเลือกเรียนวิชาสมุนไพรเพื่อรักษาเกี่ยวกับแมลงสัตว์กัดต่อยจากฆราวาสชื่อดี จากกิจวัตรที่ดีงามสมถะประพฤติปฏิบัติตนไม่เคยมีเรื่องด่างพล้อย ชาวบ้านคำข่าพร้อมผู้ใหญ่บ้าน ใด้ชวนกัน มากราบนิมนต์ให้หลวงปู่ลาสิขาออกมาเพื่อรับตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านคำข่า อยู่จนครบวาระ60ปี แต่สายธรรมเป็นบุญเก่ายังอยู่หลังจากหมดวาระผู้ใหญ่บ้านท่านก็ใด้อุปสมบทใหม่อีกครั้งในปีนั้นเลย เมื่อวันที่30มีนาคม 2529 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมี พระครูโอภาสธรรมกิตติ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระคำมีปัญญาทีโป เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระวิเชียร ชมฺมตโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ระหว่างที่บวชหลวงปู่สีท่านยังไปมาหาสู่หลวงปู่สวน ฉนฺทโร วัดนาอุดม อ.ตาลสุมอยู่เป็นประจำเพราะอยู่คนละฝั่งแม่น้ำมูล
จากวัติปฏิบัติของหลวงปู่ จึงทำให้มีชาวบ้านใกล้ไกลเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก และหลวงปู่ท่านเป็นพระที่มีเมตตาต่อทุกชนชั้นไม่ว่ายากดีมีจนมาขอความช่วยเหลือหลวงปู่ท่านจะทำเต็มกำลังจนสุดความสามารถ ชาวบ้านที่ทุกข์เนื้อร้อนใจมาขอให้หลวงปู่รดน้ำมนต์ ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ต่อโชคชะตาไม่ขาดสาย มีเรื่องเล่าจากชาวบ้านว่าหลวงปู่ท่านดูดวงแม่นมาก ท่านดูจาดตำราใบลานซึ่งเป็นภาษาธรรมโบราณที่ใด้สืบต่อกันมาแต่โบราณ สาธุครับ
เรียบเรียงโดย โจ้ มหาละรวย
เผยแพร่โดย Aeh Saithong
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น